15 พฤษภาคม, 2564

การยื่นคำขอแปลงสัญชาติเป็นไทย

 

การยื่นคำขอแปลงสัญชาติเป็นไทย

คำแนะนำในการยื่นคำขอแปลงสัญชาติเป็นไทย

 
 
 
จากแนวทางประกอบการพิจารณาในการขอแปลงสัญชาติเป็นไทย ซึ่ง รมว.มท.ได้ให้ความเห็นชอบ เมื่อวันที่ 14 ต.ค.2552 ได้กำหนด
คุณสมบัติของผู้ยื่นคำขอแปลงสัญชาติเป็นไทยไว้ ดังนี้

1. บรรลุนิติภาวะแล้วตามกฎหมายไทยและกฎหมายที่บุคคลนั้นมีสัญชาติ

2. มีความประพฤติดี โดยจะต้องผ่านการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม (พิมพ์ลายมือส่งตรวจสอบ) พฤติการณ์ทางการเมือง ยาเสพติด พฤติการณ์เกี่ยวกับความมั่นคงของประเทศ และหมายจับต่างประเทศ

3. มีอาชีพเป็นหลักฐาน โดยจะต้องมีหนังสือรับรองการประกอบอาชีพจากสำนักบริหารแรงงานต่างด้าว หรือสานักงานจัดหางานจังหวัด และต้องมีรายได้ไม่ต่ำกว่าเกณฑ์ที่กาหนดดังนี้

3.1 กรณีไม่มีความเกี่ยวพันหรือสัมพันธ์กับประเทศไทย จะต้องมีรายได้ไม่ต่ำกว่าเดือนละ 80,000.-บาท / เดือน โดยแสดงหนังสือรับรองเงินเดือน / รายได้เป็นหลักฐาน และแสดงหลักฐานการเสียภาษีมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี หรือเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในรอบปีก่อนปีที่ยื่นคำขอแปลงสัญชาติเป็นไทย ตั้งแต่ 100,000.-บาทขึ้นไป ไม่น้อยกว่า 3 ปี และต้องมีหนังสือรับรอง เงินเดือน / รายได้ มาแสดงประกอบด้วย

3.2 กรณีมีความเกี่ยวกันหรือสัมพันธ์กับประเทศไทย เช่นสมรสกับ บุคคลผู้มีสัญชาติไทย หรือมีบุตรเป็นบุคคลสัญชาติไทย หรือจบการศึกษาในระดับอุดมศึกษาจากสถาบัน การศึกษาในประเทศไทยจะต้องมีรายได้ไม่ต่ำกว่าเดือนละ 40,000 บาท / เดือน โดยแสดงหนังสือรับรองเงินเดือน / รายได้เป็นหลักฐาน และแสดงหลักฐานการเสียภาษีมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี หรือเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาในรอบปีที่ยื่นคำขอแปลงสัญชาติเป็นไทย ตั้งแต่ 50,000.-บาทขึ้นไปไม่น้อยกว่า 3 ปี และต้องมีหนังสือรับรองเงินเดือน / รายได้มาแสดงประกอบด้วย

4. เป็นผู้ได้รับอนุญาตให้เข้ามามีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักรตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมืองโดยแสดงหลักฐานใบสำคัญถิ่นที่อยู่ หรือใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว หรือหลักฐานทางทะเบียนราษฎร (ทร.14) ที่แสดงยืนยันได้ว่ามีภูมิลำเนาต่อเนื่องในประเทศไทยเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปี

5. มีภูมิลำเนาในราชอาณาจักรไทยต่อเรื่องมาจนถึงวันที่ยื่นคำขอแปลงสัญชาติเป็นไทยไม่น้อยกว่า 5 ปี โดยนับจากการได้รับใบสำคัญถิ่นที่อยู่ หรือใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว หรือหลักฐานทางทะเบียนราษฎร (ทร.14) ที่แสดงยืนยันได้ว่ามีภูมิลำเนาต่อเนื่องในประเทศเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปี

6. มีความรู้ภาษาไทยตามที่กาหนดในกฎกระทรวง โดยพูดและฟังภาษาไทยเข้าใจได้ และจะต้องร้องเพลงชาติไทยและเพลงสรรเสริญพระบารมีได้ พร้อมนี้ทั้งต้องผ่านการสัมภาษณ์ดังนี้

 

6.1 กรณีผู้ยื่นคำขอฯ มีภูมิลำเนาอยู่ในกรุงเทพฯ ให้ผ่านการสัมภาษณ์จากคณะอนุกรรมการกลั่นกรองการขอแปลงสัญชาติเป็นไทย การขอถือสัญชาติไทยตามสามีและการ ขอกลับคืนสัญชาติไทย

6.2 กรณีผู้ยื่นคำขอฯ มีภูมิลำเนาอยู่ในต่างจังหวัด ให้ผ่านการสัมภาษณ์จากคณะทำงานระดับจังหวัด ตามคำสั่งคณะอนุกรรมการกลั่นกรองการขอแปลงสัญชาติเป็นไทย การขอ ถือสัญชาติเป็นไทยตามสามีและการขอกลับคืนสัญชาติไทย ที่....................ลงวันที่...............................

7. ผู้ยื่นคำขอ ฯ จะต้องแสดงเอกสารที่ยื่นต่อสถานทูตหรือสถานกงสุลของประเทศที่ตนมีสัญชาติ และตั้งอยู่ในประเทศไทย อันเป็นการแสดงเจตนาของผู้ประสงค์จะขอแปลงสัญชาติเป็นไทย ที่จะสละสัญชาติเดิมเมื่อได้รับอนุญาตให้แปลงสัญชาติเป็นไทยแล้ว

8. ผู้ยื่นคำขอ ฯ จะต้องผ่านเกณฑ์การให้คะแนนตามผนวก ก รวมกันไม่ต่ำกว่า 50 คะแนน จึงจะได้รับการพิจารณา

 
หลักฐานที่ต้องใช้ในการยื่นคำขอแปลงสัญชาติเป็นไทย

1. สำเนาใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว 5 ชุด (ทุกหน้าที่มีการบันทึกรายการ)

2. สำเนาใบสำคัญถิ่นที่อยู่ 5 ชุด (ทุกหน้าที่มีการบันทึกรายการ)

3. สำเนาใบอนุญาตทำงาน 2 ชุด (ทุกหน้าที่มีการบันทึกรายการ)

4. รูปถ่ายของผู้ยื่นคำขอ ฯ ขนาด 2x2 นิ้วครึ่ง จำนวน 12 รูป และของคู่สมรส จานวน 3 รูป (ชายใส่สูทผูกไท หรือชุดพระราชทาน หญิงแต่งกายสุภาพ)

5. สำเนาทะเบียนบ้านทั้งครอบครัว 5 ชุด (ผู้ยื่น , สามีหรือภรรยา และบุตร ถ้ามี)

6. สำเนาทะเบียนสมรส 2 ชุด (ถ้าเป็นภาษาต่างประเทศให้แปลเป็นภาษาไทย)

7. หลักฐานการฝากเงินธนาคาร หรือหนังสือรับรองเงินฝากจากธนาคาร (ไม่ควรน้อยกว่า 80,000.-บาท)

8. หลักฐานการบริจาคการกุศลสาธารณะประโยชน์ (ไม่ควรน้อยกว่า 5,000.-บาท) และจะต้องบริจาคมานานแล้ว ไม่ใช่บริจาคเพื่อมายื่นขอแปลงสัญชาติเป็นไทย

9. หลักฐานการเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาของผู้ยื่นคำขอย้อนหลัง 3 ปี โดยมีเจ้าหน้าที่สรรพกรรับรอง

10. หลักฐานของบริษัท ห้างร้านที่ผู้ยื่นคำขอทำงานอยู่ เช่น ทะเบียนการค้า ทะเบียนพาณิชย์ หนังสือรับรองการจดทะเบียนบัญชีผู้ถือหุ้น ภาษีมูลค่าเพิ่ม (ภพ.20) และอื่น ๆ (ถ่ายเอกสาร 1 ชุด)

11. ภาษีนิติบุคคล (ภ.ง.ด.50) ย้อนหลัง 1 ปี กรณีผู้ยื่นคำขอมีหุ้นอยู่ในบริษัท หรือห้างร้าน

12. หนังสือรับรองการทำงานระบุตำแหน่งและอัตราเงินเดือน ออกโดยบริษัท หรือห้างร้านที่ผู้ยื่นคำขอทางานและลงนามโดยผู้มีอานาจ
ลงนามผูกพันบริษัท พร้อมทั้งประทับตราเป็นสำคัญ

13. สำเนาสูติบัตร หรือบัตรประจำตัวประชาชน หรือใบสำคัญประจำตัวตนต่างด้าวของคู่สมรสและบุตรทุกคน หากมีการเปลี่ยนชื่อ

– สกุล ให้ถ่ายเอกสารมาประกอบด้วย จำนวน 2 ชุด

14. หลักฐานการศึกษาของผู้ยื่นคำขอและบุตรทุกคน

15. สำเนาบัตรประจำตัวประชาชน และสาเนาทะเบียนบ้านของพยานผู้รับรองความประพฤติ 2 ชุด (พยานผู้รับรองความประพฤติ 2 คน)

16. หนังสือรับรองบรรลุนิติภาวะแล้วตามกฎหมายของประเทศเดิมที่ผู้ยื่นคำขอมีสัญชาติอยู่

17. หนังสือรับรองของผู้ยื่นคำขอ ฯ ที่แสดงเจตนาจะสละสัญชาติเดิมจากสถานทูตหรือสถานกงสุลของประเทศที่ตนมีสัญชาติและตั้งอยู่ในประเทศไทย เมื่อได้รับอนุญาตให้แปลงสัญชาติเป็นไทย

18. สำเนาหนังสือเดินทาง 2 ชุด (ทุกหน้าที่มีการบันทึกรายการ)

ในวันที่มายื่นคำขอแปลงสัญชาติเป็นไทย ต้องนำเอกสารฉบับจริงมาแสดงด้วย โดยผู้ยื่นคำขอจะต้องมรยื่นคำขอด้วยตัวเอง และจะต้องเตรียมเงินค่าธรรมเนียมในการยื่นคำขอ ฯ มาชาระด้วย จานวน 5,000.-บาท โดยยื่นคำขอได้ที่งานแปลงสัญชาติ ฝ่ายกฎหมายและวินัย กองบังคับการอำนวยการ กองบัญชาการตารวจสันติบาล อาคาร 24 ชั้น 1 ถนนพระราม 1 เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ หากมีปัญหาหรือขัดข้อง ติดต่อและสอบถามได้ที่ โทร.0-2252-1714 , 0-2252-2708 , 0-2205-2970

 
 
 
 
 
 
คำเตือน โปรดอย่าหลงเชื่อ บุคคลผู้แอบอ้างว่าจะช่วยเหลือ หรือช่วยดำเนินการใด ๆ ให้ท่านแปลงสัญชาติเป็นไทยได้โดยเร็ว และเรียกรับเงินนอกเหนือจากที่ทางราชการกำหนด หากพบเห็นโปรดแจ้งให้ ฝ่ายกฎหมายและวินัย กองบังคับการ
อำนวยการ กองบัญชาการตารวจสันติบาล ทราบ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
 
 
 
 
 
 
 
 
 
 




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

การทำ SEO คืออะไร

    การทำ SEO คืออะไร การทำ SEO คืออะไร เรียนรู้เทคนิคง่ายๆ ทำด้วยตัวเอง ไม่ต้องเสียตังค์ "SEO คือ การปรับแต่งเว็บไซต์ให้ติดอันดับการค้...